วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

งานช่างพื้นฐาน



งานช่างพื้นฐาน
1.  ประเภทของงานช่าง          งานช่าง  หมายถึง  งานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง  ซ่อมแซม  บำรุงรักษา  หรือดัดแปลงวัสดุหรือเศษวัสดุให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทำให้เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น  และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้อีกด้วย  ซึ่งงานช่างทั่วไปที่เราพบเห็นมีหลายประเภท  ดังนี้


1.1 งานโลหะ
               เป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ  แรงกาย  ความอดทน  ความละเอียด  ประณีต  ในการทำงาน  โดยการประดิษฐ์ของใช้

เหล่านี้จะมีโครงสร้างเป็นโลหะเป็นส่วนมาก  ทำให้อุปกรณ์มีความคงทนถาวรสูง
        
1.2 งานไม้และงานพลาสติก
              งานไม้เป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะในการทำงานโดยอาศัยไม้เป็นโครงสร้างแกนหลัก  ซึ่งต้องมีความสวยงาม 
มีความคิดสร้างสรรค์ ในการนำไม้มาประดิษฐ์เป็นของใช้ได้อย่างเหมาะสม  และในปัจจุบันนี้ไม้มีราคาแพงและหาได้ยากขึ้น  
ทำให้พลาสติกซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ มีบทบาทมากขึ้นแทนงานไม้
       
 1.3 งานปูนและงานสุขภัณฑ์
               เป็นวัสดุงานที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน ทั้งที่อยู่อาศัย สำนักงานต่างๆ  โดยเฉพาะในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
มีความจำเป็นต้องซ่อมแซม บำรุงรักษาสุขภัณฑ์ ตลอดจนการเลือกใช้ชนิดของปูนซีเมนต์ การผสม การก่ออิฐถือปูน 
การซ่อมรอยแตกร้าว ห้องน้ำ  และสุขภัณฑ์
       



1.4 งานสีและงานเคลือบผิว
              เป็นงานขั้นสุดท้ายในการตบแต่งชิ้นงานให้สวยงาม เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้ใช้  โดยที่วัสดุบางชนิดถูกอากาศ
แล้วจะทำปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้เกิดการสึกกร่อน ชำรุด ผุพัง ได้ง่าย
        

1.5 งานไฟฟ้าและงานอิเล็กทรอนิกส์
               เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ ในการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะพลังงานแสงสว่าง 
พลังงานความร้อน  และพลังงานกล และต้องใช้ได้อย่างปลอดภัย  โดยเน้นในการบำรุงรักษา ความปลอดภัย  
มีอายุการใช้งานยืนนาน เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าเหมือนเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันซึ่งจะขาดไม่ได้



2.  ประโยชน์ของงานช่าง          การเรียนรู้งานช่าง  มีประโยชน์ดังนี้
          1.  สามารถใช้เครื่องมือช่างต่าง ๆ ได้ถูกต้องและเหมาะสมกับงาน
          2.  สามารถซ่อมแซมและดูแลรักษาของใช้ที่ชำรุดแล้ว  ให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้  ช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายของครอบครัว  และช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย
          3.  ช่วยฝึกให้รู้จักคิดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ
          4.  ทำให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง

3.  เครื่องมืองานช่าง
          เครื่องมีอที่ใช้ในการทำงานช่าง  มีดังนี้
          1.  เครื่องมือสำหรับวัดระยะ  ใช้วัดความก้วาง  ความยาว  และความสูงของวัสดุ  เช่น  ไม้บรรทัด  ไม้เมตร  สายวัด  ตลับเมตร  เป็นต้น
          2.  เครื่องมือสำหรับตัด  ใช้ตัด  หรือผ่าวัสดุให้แยกออกจากกัน  เช่น  กรรไกร  มีด  เลื่อย  คีมตัดลวด  ขวาน  เป็นต้น
          3.  เครื่องมือสำหรับเจาะ  ใช้เจาะวัสดุให้เป็นรู  เช่น  สิ่ว  สว่านไฟฟ้า  สว่านมือ  เป็นต้น
          4.  เครื่องมือสำหรับตอก  ใช้ตอก  ทุบ  หรือตีวัสดุต่าง ๆ เช่น  ค้อนหัวกลม  ค้อนหัวแบน  ค้อนาหงอน  เป็นต้น

 4.  วิธีการใช้และดูแลรักษาเครื่องมือช่าง
          1.  วิธีการใช้เครื่องมือช่าง  มีหลักปฏิบัติดังนี้
               1.  ศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือก่อนนำไปใช้
               2.  ตรวจสอบาสภาพของเครื่องมือก่อนนำไปใช้งาน  ถ้าพบว่าเครื่องมือชำรุด  ควรนำไปซ่อมแซมก่อน
               3.  ใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน
               4.  ใช้เครื่องมือด้วยความระมัดระวัง  และไม่เล่นหยอกล้อกันขณะใช้เครื่องมือ
          2.  การดูแลรักษาเครืองมือช่าง  ควรปฏิบัติดังนี้
               1.  ทำความสะอาดเครื่องมือหลังการใช้งานทุกครั้ง
               2.  ถ้าเครื่องมือชำรุดให้ซ่อมแซมก่อนนำไปเก็บ
               3.  เครื่องมือที่เป็นโลหะ  เช่น  กรรไกร  มีด  เลื่อย  ควรทาน้ำมันเพื่อป้องกันสนิมในส่วนที่เป็นโลหะ
               4.  จัดเก็บเครื่องมือเข้าที่หรือเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย

5.  การซ่อมแซม  ดูแล  และบำรุงรักษาของใช้          ของใช้ที่มีอยู่ในบ้าน  เราควรดูแลและบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดูใหม่  และสะอาดอยู่เสมอ  เพื่อให้มีของไว้ใช้ได้นาน ๆ แต่สำหรับของใช้ที่เสื่อมสภาพหรือชำรุดเสียหาย  แล้วต้องนำไปให้ช่างซ่อมแซมสิ่งของด้วยตนเอง  ก็จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้